สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจสื่อสาร จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นนในสมัยของ พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ เป็นหัวหน้ากองตำรวจสื่อสาร กรมตำรวจ เนื่องจากท่านเห็นว่าข้าราชการตำรวจสื่อสารไม่มีรายได้เสริมอย่างอื่นนอกเหนือจากเงินเดือนประจำเท่านั้น ทำให้บางครั้งอาจขาดสภาพคล่องในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันหรือในยามที่มีเหตุความจำเป็น ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ข้าราชการตำรวจและเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด ส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจสื่อสารมีการออมทรัพย์และสามารถกู้ยืมเงินในยามที่ต้องการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบจากภายนอกหรือสถาบันการเงินอื่นๆ จึงได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจสื่อสาร จำกัด ขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2515 ใช้ชื่อว่า “สหกรณ์ออมทรัพย์กองการสื่อสารกรมตำรวจ จำกัด” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมสมาชิกให้มีการออมทรัพย์ และช่วยให้สามารถสงวนส่วนแห่งรายได้ของตนไว้ในทางอันมั่นคงและได้รับประโยชน์ตามสมควร ส่งเสริมการช่วยตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก ในระยะเริ่มแรกมีข้าราชการตำรวจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 188 คน มีทุนเรือนหุ้นแรกเริ่ม 8,050 บาท (แปดพันห้าสิบบาทถ้วน)

ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีการแบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ ใช้ชื่อว่า “กองบังคับการตำรวจสื่อสาร “ขึ้นตรงต่อสำนักงานส่งกำลังบำรุง  กรมตำรวจ  จึงได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น “สหกรณ์กองบังคับการตำรวจสื่อสาร จำกัด ” เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2524 เพื่อให้สอดคล้องกับหน่วยงานในขณะนั้น

หลังจากนั้นต่อมาสหกรณ์ออมทรัพย์กองบังคับการตำรวจสื่อสาร จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น “สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจสื่อสาร จำกัด ” เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2536 เพื่อให้สอดคล้องสอดรับกับการเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน ตามโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากกองบังคับการตำรวจสื่อสาร ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการใหม่ ใช้ชื่อว่า “กองตำรวจสื่อสาร” ขึ้นตรงต่อ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาจนถึงปัจจุบัน

ในปี พ.ศ.2555 ณ.31 ธันวาคม 2555 มีสมาชิกทั้งหมดจำนวน  351 คน มีทุนเรือนหุ้น จำนวน 74,220,550บาท (เจ็ดสิบสี่ล้านสองแสนสองหมื่นห้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน ) มีทุนดำเนินงานจำนวน มีระยะเวลาก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน 40 ปีเศษ มีคณะกรรมการดำเนินงานมาแล้ว 40 ชุด มีผู้บังคับการกองตำรวจสื่อสารเป็นประธานดำเนินงานโดยการเลือกตั้งของสมาชิก การดำเนินงานของสหกรณ์ดำเนินการไปตามนโยบายแฃะแผนงาน ระเบียบ และข้อบังคับของสหกรณ์ สามารถบริหารงานให้บังเกิดผลดีแก่สหกรณ์และสมาชิก ถึงแม้ในห้วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำก็สามารถบริหารงานผ่านพ้นมาได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันทั้งของฝ่ายบริหารและมวลสมาชิก